วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
เล่าเรื่อง….จาก….เรื่องจริง(เด็กพิเศษ)
เล่าเรื่อง….จาก….เรื่องจริง
กับ…ครูกุ๊กสอนน้อง ( เด็กพิเศษ )
เขียนโดย: ชมพูนุท คำแย้ม (วท.บ.วิทยาศาสตร์การกีฬา)
เมื่อ 3
ปีที่ผ่านมา…ได้มีโอกาสพบกับผู้ปกครองท่านหนึ่ง ในขณะที่กุ๊กกำลังสอนเทนนิสอยู่สนาม ร.ร.รุจิเสรี ย่านสะพานควาย
หลังจากที่สอนเสร็จเรียบร้อย
ผู้ปกครองท่านนั้นก็เดินเข้ามาทักทายกุ๊ก
และเล่าให้ฟังว่า “ผมมีลูกสาว 3 คน
มีคนกลางเป็นเด็กพิเศษ
ไม่ทราบว่าครูกุ๊ก จะช่วยสอนลูกผมได้มั๊ย ในตอนนั้นน้องอายุ 14 ปี
เริ่มเป็นสาวแล้ว( แต่กุ๊กก็ยังไม่เคยเห็นหน้าน้อง )คือ
ลูกผมเคยเรียนเทนนิสมาบ้างแล้ว
แต่ผมอยากให้ลูกเรียนกับครูที่เป็นผู้หญิงมากกว่าซึ่งมีความปลอดภัยดีกว่า
เพราะน้องเริ่มเป็นสาวแล้วด้วย ไม่ทราบว่า
ครูกุ๊กสนใจไหม”..ในตอนนั้นกุ๊กตอบ..ตกลง.. โดยไม่ได้ลังเลใจเลยค่ะ กุ๊กกลับบ้านไปรีบโทรบอกแม่ “ เนี่ยกุ๊กได้สอนเด็กพิเศษนะ
แม่บอก ดีเลย ตั้งใจสอนล่ะ” เราเองก็ยังคิดว่า..แล้วเราจะสื่อสารกับน้องรู้เรื่องไหม
สอนอย่างไรก่อนหลัง ใช้กิจกรรมรูปแบบไหน มีคำถามกับตัวเองเยอะแยะไปหมด
เลยเริ่มอ่านหนังสือ หาข้อมูลมากขึ้น
จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ ได้เจอกับน้องคุณพ่อก็แนะนำให้เรารู้จักกัน
แว้บแรกที่เห็นก็รู้สึกเลยว่าน้องเค้าดูบริสุทธิ์ สดใส มีแค่แววตาที่ไม่สบตาเรา อาจด้วยไม่คุ้นเคยเจอกันครั้งแรก เรากํเริ่มคุยกันมากขึ้น
และเราได้ซักถามเกี่ยวกับตัวน้องในเบื้องต้นด้วยว่า น้องมีลัษณะอาการอย่างไรบ้าง อารมณ์ปกติเป็นอย่างไรบ้าง อารมณ์ดีเป็นอย่างไรและเวลาโมโหเป็นอย่างไร
ก็ได้รู้ว่า น้องเป็นเด็กที่อารมณ์ดี ชอบร้องเพลง ที่สังเกตเห็นอีกก็คือ ไม่ค่อยสบตาเวลาที่พูด ชอบกระโดด
การใช้ภาษายังไม่ถูกต้อง (
ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลที่ได้ศึกษาว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นอย่างไร ) โดยรวมน้องเป็นเด็กน่ารัก
มีบางครั้งน้องเข้ามากอดเรา เราก็กอดเค้านะ (แอบน้ำมีน้ำตานิดนึง..)ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก
คิดว่าเค้าควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุด
ในแต่ละครั้งที่สอนก็จะหากิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างในเรื่องของทักษะเทนนิส
มาอยู่ในรูปแบบของเกมส์
แต่ละกิจกรรมจำต้องมีการปฏิบัติซ้ำๆหลายครั้ง เพื่อให้น้องจดจำได้…แต่พิเศษมาก…สำหรับเด็กพิเศษ เค้าสามารถที่จะจดจำได้ดีและทำได้ถูกต้อง แต่ต้องใช้เวลานิดนึงค่ะ
เมื่อเค้าทำซ้ำเค้าจะจำได้ดี
แล้วก็ทบทวนอีกรอบ
จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอืนที่เกี่ยวเนื่องกัน ทำเป็นขั้นตอนเมือนที่สอนเด็กปกติเลยค่ะแต่…ที่ยากกว่าคือ…การสื่อสาร การถ่ายทอดให้เข้าใจตรงกัน…สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ส่วนหนึ่งต้องพยายามให้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ให้ทำตาม
ให้ทำซ้ำ ทำไปด้วยกัน ให้ทำเอง…เวลาที่เราต้องการให้เค้าทำอะไรสักอย่าง
ที่เค้ายังไม่เคยทำ ครูผู้สอนจะต้องมีจินตนาการ
และสร้างจินตนาการให้น้องได้เข้าใจมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ให้น้องตีลูกเสิร์ฟ
ก็ต้องโยนบอลให้นิ่งก่อน
จังหวะที่โยนบอลต้องสัมพันธ์กับการตีบอลจึงจะเสิร์ฟได้
จังหวะที่โยนบอลเราต้องทำให้เค้าดูก่อน เค้าทำตาม ทำไปพร้อมกัน
ให้ทำเอง แล้วบอกให้พูดด้วยเวลาโยนว่า โยนขึ้นท้องฟ้า แล้วรับให้ได้
ทำซ้ำจนกว่าจะทำได้
กุ๊กโชคดีมาก
ที่น้องเป็นเด็กน่ารัก อารมณ์ดี พูดง่ายและเราสื่อสาร สนทนากันได้ดีขึ้น เวลาสอนก็ตั้งใจดี
ทำซ้ำๆเค้าก็จะจำได้เองและในเกือบจะทุกครั้งที่เรียนเสร็จ
จะพูดคุยกับคุณพ่อหรือไม่ก็คุณแม่
ถามไถ่ว่าในชั่วโมงน้องเป็นอย่างไรบ้าง
จนระยะเวลาผ่านมา 1 ปี
ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของน้อง
สูงขึ้น ดูแข็งแรงดี การเรียนเทนนิสของน้องก็ดีขึ้นตามลำดับ
ตีโฟแฮนด์ แบ็กแฮนด์ ตีโต้ได้มากขึ้น…ข้อดีของน้องที่อยากให้ทุกคนเอาแบบอย่างคือ ตามบอลทุกบอล
มีความตื่นตัวตลอดเวลา…ถ้าเมื่อไรคุณมีสมาธิ
คุณก็สามารถตีได้เช่นกัน ถ้าเมื่อไหร่
คุณขาดสมาธิ ไม่ว่าจำทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
2
ปีผ่านไป…มีเรื่องเล่าต่างๆมากมาย เราไม่เพียงคุยกับเค้าแค่เรื่องตีเทนนิส
แต่ก็จะคอยบอกเค้าในเรื่องการช่วยเหลือตัวเองและผู้หญิงต้องระมัดระวังอะไรบ้าง
ค่อยๆพูดซ้ำให้เค้าจำได้
เรื่องดูแลร่างกายตนเอง แม้แต่เวลาที่น้องเช็ดหน้าเวลาที่เหงื่ออก
ก็ทำให้เค้าดูว่าเช็ดเบาๆทำอย่างไร เช็ดแรงแล้วจะเป็นอะไร
เค้าก็จะจดจำสิ่งที่เราพูดได้ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ…น้องความจำดีค่ะ
ความยากอยู่ตรงที่วิธีทำอย่างไรให้เค้าเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารกันมากกว่า น้องไม่เคยทำให้กุ๊กรู้สึกอึดอัดใจหรือเบื่อ
หรือกลัวจะสอนไม่ได้…ไม่มีเลยค่ะ…ดีใจค่ะ
มีความสุขทุกครั้ง เห็นน้องยิ้ม
อารมณ์ดี เราก็ดีใจค่ะ เวลาคุณแม่น้อง
ชมน้องว่า “ ตีเก่งขึ้น เก่งจังเลย ” มีความสุขค่ะ นี่ค่ะ…ความสุขทีสัมผัสได้
จนถึงปัจจุบัน
น้องยังคงเรียนเทนนิสอยู่ทุกสัปดาห์และตอนนี้น้องก็สามารถเล่นเซ็ท ตีเกมส์
เข้าใจกติกาการเล่นเทนนิส การนับคะแนนได้ด้วยค่ะ เก่งมากๆค่ะ
ขอชื่นชมเลยค่ะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ของน้องที่ทุ่มเท
สละเวลาเพื่อลูกคนนี้
มานั่งรอน้องทุกครั้ง
เอาหนังสือมาอ่าน มานั่งทำงาน ทุ่มเททุกอย่างกับลูกจริงๆ ถ้าไม่มีคุณพ่อคุณแม่ที่คอยให้ความรัก
การเอาใจใส่ อดทน ทุ่มเท หาสิ่งที่ดีทีสุดให้กับน้อง แน่นอนว่า..คงจะไม่มีสิ่งดีเกิดขึ้นแบบนี้
กุ๊ก..ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำสิ่งดีนี้ด้วยนะคะ โดยการสอนเทนนิสให้กับเด็กพิเศษเหล่านี้
เพื่อช่วยพัฒนาสมรรถภาพด้านร่างกายเสริมสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อได้ทำงานปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
มีสมาธิมากขึ้น อารมณ์แจ่มใส สนุกสนานผ่อนคลายมากขึ้น…
ขอบคุณน้องที่ทำให้กุ๊กมีความสุขในการสอนทุกครั้ง และได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงผ่านเรื่องราวในครั้งนี้
ขอขอบคุณ:
น้องเกณฑ์…บุคคลต้นเรื่อง
วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Tennis เทนนิส...กับน้องๆออทิสติก…สำคัญอย่างไร
Tennis เทนนิส...กับน้องๆออทิสติก…สำคัญอย่างไร
เขียนโดย...ชมพูนุท คำแย้ม ( วท.บ.วิทยาศาสตร์การกีฬา)
เทนนิส Tennis เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่มีความสำคัญกับน้องๆมาก ดังนั้น ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับลูกๆของเราในการเล่นเทนนิสเพื่อพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ
อารมณ์ สังคมที่ดีขึ้น
เทนนิส Tennis เป็นกีฬา ที่มีการเล่นเฉพาะตัวที่สนุกสนานมากๆ มีอุปกรณ์ที่ใช้ คือ ไม้เทนนิส+ลูกเทนนิส+สนามเทนนิส+ผู้เล่น 2
คนขึ้นไป…จะเห็นได้ว่า
มีลักษณะการเล่นที่ต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา และยังได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกด้วย…
เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีโอกาสลองพาลูกของคุณมาทำความรู้จักกับกีฬาเทนนิสดูนะคะ…อย่าคิด…ว่า ลูกเราทำไม่ได้ ยากจัง…แท้จริงแล้ว..น้องๆทุกคนสามารถเรียนรู้ได้…
เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีโอกาสลองพาลูกของคุณมาทำความรู้จักกับกีฬาเทนนิสดูนะคะ…อย่าคิด…ว่า ลูกเราทำไม่ได้ ยากจัง…แท้จริงแล้ว..น้องๆทุกคนสามารถเรียนรู้ได้…
เทนนิส Tennis เป็นกีฬาทีช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่
มัดเล็ก อีกทั้ง…ฝึกสมาธิอยู่ตลอดเวลา…ฝึกการใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆในการทำงานร่วมกัน…ฝึกการทำงานของสมอง
ประสาทสัมผัสระหว่าง ตา-มือ-เท้า ให้ดีมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญจะมีกระบวนการคิดที่เป็นระบบมากขึ้น
หมายถึง น้องๆต้องวางแผน คิดเป็นขั้นตอน
ยกตัวอย่างเช่น การเสิร์ฟ…น้องๆจะต้องรู้ว่า การเสิร์ฟ มีการจัดท่าทางอย่างไร ต้องยืนเสิร์ฟตรงจุดไหน ต้องโยนบอลอย่างไร ต้องโยนบอลสูงประมาณไหน จึงจะสามารถเสิร์ฟข้ามตาข่าย…
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า กระบวนการคิดเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ควรจะมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง รับรองได้ว่าน้องๆจะต้องมีพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า กระบวนการคิดเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ควรจะมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง รับรองได้ว่าน้องๆจะต้องมีพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
สุดท้าย
ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม
กีฬา ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราจะขาดมันไม่ได้
รู้อยู่แล้วว่าออกกำลังกายแล้วมีประโยชน์อย่างไร แต่…ไม่ปฏิบัติ…ไม่มีเวลา
คุณเคยคิดหรือไม่…ว่าถ้าร่างกายไม่แข็งแรง
ก็คงไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน
ป้องกันไว้ก่อน…ด้วยการ…ออกกำลังกาย
ก่อนที่จะ…ไม่สบาย…ต้องไป…พบหมอ….t train tennis ครูกุ๊ก
โปรดติดตาม เล่าเรื่อง…จาก…เรื่องจริง(ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง)
ผู้ปกครองควรติดตาม
วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556
กีฬาเทนนิสบำบัด สำหรับเด็กออทิสติก..ตอน 2
กีฬาเทนนิสบำบัด
เป็นกิจกรรมกีฬาที่ฝึกประสาทสัมผัสอวัยวะตา-มือ(hand-eye)ทักษะการเคลื่อนไหวในลักษณะท่าตีประเภทต่างๆ การฝึกสมาธิที่สำคัญ ฝึกการเข้าจังหวะในการตีบอล การควบคุมและบังคับทิศทางของบอล และสุดท้ายเน้นกิจกรรมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในผู้ที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง
จุดประสงค์ในการเรียน
เพื่อส่งเสริม บำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพ ให้สามารถกลับไปดำรงชีวิตในสังคมได้
เพื่อช่วยเสริมสร้างสมาธิ ทักษะการคิด พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และการทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ
การเล่นกีฬาเทนนิสบำบั
กีฬาเทนนิส ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำหรับท่านผู้ปกครองนะคะ ในการช่วยให้น้องๆมีพัมนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่แจ่มใสขึ้น พลานามัยดีขึ้น
พัฒนาการด้านร่างกาย
ได้แก่ กล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่จะสามารถทำงานได้ดีขึ้นมีแรงและกำลังมากขึ้นด้วยวิธีฝึกที่ถูกวิธี
พัฒนาการด้านจิตใจ
ดังเช่นแน่นอนว่าน้องๆจะรู้สึกสนุกอยากทำตามได้เคลื่อนที่ ได้ความแปลกใหม่ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผู้ปกครองยิ้มได้
พัฒนาการด้านสมอง
ในการเรียนและเล่นเทนนิสจะมีการสอดแทรกความรู้ของกีฬาเทนนิสสอดแทรก และให้น้องๆคิดตามคอย ถามคอยพูดกับเค้า น้องๆออทิสติกเหล่านี้ ต้องยอมรับเลยว่าเค้ามีความฉลา ยู่ภายในทุกคนอยู่แล้วเพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้เรียนรู้และทดลอง แล้วจะพบว่าเค้าเป็นเด็กที่น่ารัก พูดง่ายนะคะแต่อาจจะต้องมีวิธีการที่จะสื่อสารกับเค้าอย่างเข้าใจมากกว่า
กีฬาเทนนิส ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำหรับท่านผู้ปกครองนะคะ ในการช่วยให้น้องๆมีพัมนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่แจ่มใสขึ้น พลานามัยดีขึ้น
ได้แก่ กล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่จะสามารถทำงานได้ดีขึ้นมีแรงและกำลังมากขึ้นด้วยวิธีฝึกที่ถูกวิธี
พัฒนาการด้านจิตใจ
ดังเช่นแน่นอนว่าน้องๆจะรู้สึกสนุกอยากทำตามได้เคลื่อนที่ ได้ความแปลกใหม่ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผู้ปกครองยิ้มได้
พัฒนาการด้านสมอง
ในการเรียนและเล่นเทนนิสจะมีการสอดแทรกความรู้ของกีฬาเทนนิสสอดแทรก และให้น้องๆคิดตามคอย ถามคอยพูดกับเค้า น้องๆออทิสติกเหล่านี้ ต้องยอมรับเลยว่าเค้ามีความฉลา ยู่ภายในทุกคนอยู่แล้วเพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้เรียนรู้และทดลอง แล้วจะพบว่าเค้าเป็นเด็กที่น่ารัก พูดง่ายนะคะแต่อาจจะต้องมีวิธีการที่จะสื่อสารกับเค้าอย่างเข้าใจมากกว่า
อ้างอิงแหล่งที่มา
ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. กิจกรรมบำบัด. [Online] 2549; Available from: URL: http://www.happyhomeclinic.com/occupationaltherapy.htm
วิธีการจัดการดูแลเด็กออทิสติกเมื่อเด็กดื้อ
วิธีการจัดการดูแลเด็กออทิสติกเมื่อเด็กดื้อ
การแสดงออกถึงพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กออทิสติกนั้นมีลักษณะ และความรุนแรงแตกต่างกันไป
โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ที่พบเห็นได้บ่อยคือ
1. ทำร้ายตนเอง เช่น ตีศีรษะ โขกศีรษะกับพื้น กัดมือตนเอง กระแทกตัวกับเก้าอี้
2. ทำร้ายผู้อื่น เช่น ตบหน้า กัด ใช้นิ้วจิ้มตา เตะถีบ ดึงผม ล็อคคอ กระชากคอเสื้อ
3. ทำลายสิ่งของ เช่น ล้มตู้ คว่ำถาดอาหาร ทุ่มเก้าอี้ ขว้างปาข้าวของ
โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ที่พบเห็นได้บ่อยคือ
1. ทำร้ายตนเอง เช่น ตีศีรษะ โขกศีรษะกับพื้น กัดมือตนเอง กระแทกตัวกับเก้าอี้
2. ทำร้ายผู้อื่น เช่น ตบหน้า กัด ใช้นิ้วจิ้มตา เตะถีบ ดึงผม ล็อคคอ กระชากคอเสื้อ
3. ทำลายสิ่งของ เช่น ล้มตู้ คว่ำถาดอาหาร ทุ่มเก้าอี้ ขว้างปาข้าวของ
เทคนิคและวิธีการจัดการดูแลเด็กออทิสติกเมื่อเด็กดื้อ
1. ยอมรับอารมณ์ความรู้สึกของเด็กในขณะนั้น แต่ต้องไม่ยอมรับพฤติกรรมนั้น
2. หยุดพฤติกรรมนั้นทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นอันตรายต่อเด็ก ผู้อื่น และทรัพย์สิน
3. แยกเด็กออกจากกลุ่มหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย
4. พูดคุยปลอบโยน เข้าหาเด็กด้วยท่าทีสงบมั่นคง พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และไม่แสดงท่าทีคุกคามเด็กหรือตะโกนดุด่า
5. ค้นหาสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นให้เกิดความก้าวร้าว แยกเด็กออกจากสิ่งเร้านั้น และตอบสนองความต้องการตามความเหมาะสม
6. การแสดงความก้าวร้าว บางครั้งอาจเกิดจากการเรียกร้องความสนใจ หากผู้ปกครองพิจารณาแล้วไม่เกิดอันตรายให้นิ่งเฉยไม่ต้องสนใจ ไม่นาน เด็กจะหยุดพฤติกรรมเอง
7. การผูกมัด ใช้ในกรณีที่เด็กมีความก้าวร้าวรุนแรงที่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นรวมทั้งทรัพย์สิน แต่อย่ามัดแน่นจนเกินไป และหมั่นตรวจดูบริเวณที่มัดไม่ให้เกิดรอยเขียวช้ำหรือบาดแผล
8. เมื่อเด็กสงบลง ชี้แจงเหตุผลที่ไม่ควรแสดงพฤติกรรมดังกล่าว และเหตุผลของการผูกมัด และตกลงเงื่อนไขกับเด็ก เช่น ถ้านั่งเฉยๆ ไม่อาละวาดอีก อีก 10 นาทีจะแก้มัดให้ และต้องทำตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด
9. ให้เด็กรู้จักรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ถ้าเด็กอาละวาด ขว้างปา
ข้าวของให้เด็กเก็บของนั้นเข้าที่ให้เรียบร้อย หรืออาจลงโทษเด็กโดยงดกิจกรรมที่เขาชอบในวันที่เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว
10. จัดให้เด็กมีพฤติกรรมที่ฝึกการควบคุมตนเอง และได้ระบายอารมณ์อย่างเหมาะสม เช่น เล่นกีฬา ให้รับผิดชอบงานง่ายๆ เช่น เช็ดโต๊ะ
11. กล่าวคำชมเชย เมื่อเด็กสามารถควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสม
12. ทำให้เด็กดูเป็นตัวอย่างในการไม่ใช้อารมณ์รุนแรงในการแก้ปัญหา
13. คอยสังเกตและป้องกันเหตุการณ์ที่คาดว่าจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
14. ในบางรายที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงมากอาจปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาให้ยาเพื่อลดและควบคุมพฤติกรรม
คำว่า “ ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ” นั้นใช้ได้กับทุกคนไม่เว้นแต่เด็กออทิสติก ดังนั้นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมของเด็กนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรตระหนักถึงความสำคัญ และช่วยกันแก้ไข วิธีการดังกล่าวข้างต้นอาจใช้ไม่ได้ผลกับเด็กทุกคน ทุกข้อ ไม่มีข้อใดผิดข้อใดถูก ต้องปรับใช้ผสมผสานกันไปให้เหมาะสมกับตัวเด็กและครอบครัวซึ่งอาจได้ผลบ้างไม่มากก็น้อย เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้เขาเป็นเด็กออทิสติกที่น่ารักของทุกคนต่อไป
ขอขอบคุณ อ้างอิงข้อมูลจาก: http://www.yuwaprasart.com โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมถ์
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556
คอร์สการสอนเทนนิสขั้นพื้นฐาน สำหรับผู้ใหญ่ ( ชมรมเทนนิส ThaiBev )
คอร์สการสอนเทนนิสขั้นพื้นฐาน สำหรับผู้ใหญ่
( ชมรมเทนนิส ThaiBev )
จุดประสงค์ในการเรียนเทนนิส
1. เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย จิตใจ
อารมณ์ สังคมให้ดียิ่งขึ้น
2. เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นและสุขภาพจิตที่ดี
3. สามารถเล่นกีฬาเทนนิสได้อย่างถูกต้อง และรู้จักการป้องกันการบาดเจ็บจากกีฬาเทนนิสไดอย่างถูกต้อง
4. สามารถนับคะแนนได้ และรู้จัก กฏ
กติกาที่ถูกต้อง
5. สามารถตีโต้ได้อย่างสนุกสนาน6. มีน้ำใจนักกีฬา
ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ตั้งใจเรียนเทนนิสกันอย่างสนุกสนานนะคะ
T Train Tennis
วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Backhand tennis..กับวงสวิงแบ็กแฮนด์ของนักเทนนิสมือ 1 โลกล่าสุด
Novac Djokovic
นักเทนนิสชาวเซอเบีย
แชมป์มือ 1 ของโลกล่าสุด ATP
ลีลาหนุ่มหล่อ
Maria Sharapova
นักเทนนิสชาวรัสเซีย
อันดับ 3 ของโลก WTA
มาดูลีลาสาวสวยคนนี้กันบ้าง
ขอขอบคุณเว็บไซด์ youtube
วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Forhand tennis..กับวงสวิงของนักเทนนิสระดับโลก
Li Na
นักเทนนิสสาวชาวจีน
WTA อันดับ 6 ของโลกล่าสุด
มาดูลีลา..กับการตีเทนนิสโฟร์แฮนด์..ของเธอ
Novak Djokovic
นักเทนนิสชาวเซอเบีย
ATP อันดับ 1 ของโลกล่าสุด
ลีลาท่าทางการตีเทนนิสโฟร์แฮนด์
ขอขอบคุณเว็บไซด์ youtube
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)