เล่าเรื่อง….จาก….เรื่องจริง
กับ…ครูกุ๊กสอนน้อง ( เด็กพิเศษ )
เขียนโดย: ชมพูนุท คำแย้ม (วท.บ.วิทยาศาสตร์การกีฬา)
เมื่อ 3
ปีที่ผ่านมา…ได้มีโอกาสพบกับผู้ปกครองท่านหนึ่ง ในขณะที่กุ๊กกำลังสอนเทนนิสอยู่สนาม ร.ร.รุจิเสรี ย่านสะพานควาย
หลังจากที่สอนเสร็จเรียบร้อย
ผู้ปกครองท่านนั้นก็เดินเข้ามาทักทายกุ๊ก
และเล่าให้ฟังว่า “ผมมีลูกสาว 3 คน
มีคนกลางเป็นเด็กพิเศษ
ไม่ทราบว่าครูกุ๊ก จะช่วยสอนลูกผมได้มั๊ย ในตอนนั้นน้องอายุ 14 ปี
เริ่มเป็นสาวแล้ว( แต่กุ๊กก็ยังไม่เคยเห็นหน้าน้อง )คือ
ลูกผมเคยเรียนเทนนิสมาบ้างแล้ว
แต่ผมอยากให้ลูกเรียนกับครูที่เป็นผู้หญิงมากกว่าซึ่งมีความปลอดภัยดีกว่า
เพราะน้องเริ่มเป็นสาวแล้วด้วย ไม่ทราบว่า
ครูกุ๊กสนใจไหม”..ในตอนนั้นกุ๊กตอบ..ตกลง.. โดยไม่ได้ลังเลใจเลยค่ะ กุ๊กกลับบ้านไปรีบโทรบอกแม่ “ เนี่ยกุ๊กได้สอนเด็กพิเศษนะ
แม่บอก ดีเลย ตั้งใจสอนล่ะ” เราเองก็ยังคิดว่า..แล้วเราจะสื่อสารกับน้องรู้เรื่องไหม
สอนอย่างไรก่อนหลัง ใช้กิจกรรมรูปแบบไหน มีคำถามกับตัวเองเยอะแยะไปหมด
เลยเริ่มอ่านหนังสือ หาข้อมูลมากขึ้น
จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ ได้เจอกับน้องคุณพ่อก็แนะนำให้เรารู้จักกัน
แว้บแรกที่เห็นก็รู้สึกเลยว่าน้องเค้าดูบริสุทธิ์ สดใส มีแค่แววตาที่ไม่สบตาเรา อาจด้วยไม่คุ้นเคยเจอกันครั้งแรก เรากํเริ่มคุยกันมากขึ้น
และเราได้ซักถามเกี่ยวกับตัวน้องในเบื้องต้นด้วยว่า น้องมีลัษณะอาการอย่างไรบ้าง อารมณ์ปกติเป็นอย่างไรบ้าง อารมณ์ดีเป็นอย่างไรและเวลาโมโหเป็นอย่างไร
ก็ได้รู้ว่า น้องเป็นเด็กที่อารมณ์ดี ชอบร้องเพลง ที่สังเกตเห็นอีกก็คือ ไม่ค่อยสบตาเวลาที่พูด ชอบกระโดด
การใช้ภาษายังไม่ถูกต้อง (
ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลที่ได้ศึกษาว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นอย่างไร ) โดยรวมน้องเป็นเด็กน่ารัก
มีบางครั้งน้องเข้ามากอดเรา เราก็กอดเค้านะ (แอบน้ำมีน้ำตานิดนึง..)ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก
คิดว่าเค้าควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุด
ในแต่ละครั้งที่สอนก็จะหากิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างในเรื่องของทักษะเทนนิส
มาอยู่ในรูปแบบของเกมส์
แต่ละกิจกรรมจำต้องมีการปฏิบัติซ้ำๆหลายครั้ง เพื่อให้น้องจดจำได้…แต่พิเศษมาก…สำหรับเด็กพิเศษ เค้าสามารถที่จะจดจำได้ดีและทำได้ถูกต้อง แต่ต้องใช้เวลานิดนึงค่ะ
เมื่อเค้าทำซ้ำเค้าจะจำได้ดี
แล้วก็ทบทวนอีกรอบ
จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอืนที่เกี่ยวเนื่องกัน ทำเป็นขั้นตอนเมือนที่สอนเด็กปกติเลยค่ะแต่…ที่ยากกว่าคือ…การสื่อสาร การถ่ายทอดให้เข้าใจตรงกัน…สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ส่วนหนึ่งต้องพยายามให้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ให้ทำตาม
ให้ทำซ้ำ ทำไปด้วยกัน ให้ทำเอง…เวลาที่เราต้องการให้เค้าทำอะไรสักอย่าง
ที่เค้ายังไม่เคยทำ ครูผู้สอนจะต้องมีจินตนาการ
และสร้างจินตนาการให้น้องได้เข้าใจมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ให้น้องตีลูกเสิร์ฟ
ก็ต้องโยนบอลให้นิ่งก่อน
จังหวะที่โยนบอลต้องสัมพันธ์กับการตีบอลจึงจะเสิร์ฟได้
จังหวะที่โยนบอลเราต้องทำให้เค้าดูก่อน เค้าทำตาม ทำไปพร้อมกัน
ให้ทำเอง แล้วบอกให้พูดด้วยเวลาโยนว่า โยนขึ้นท้องฟ้า แล้วรับให้ได้
ทำซ้ำจนกว่าจะทำได้
กุ๊กโชคดีมาก
ที่น้องเป็นเด็กน่ารัก อารมณ์ดี พูดง่ายและเราสื่อสาร สนทนากันได้ดีขึ้น เวลาสอนก็ตั้งใจดี
ทำซ้ำๆเค้าก็จะจำได้เองและในเกือบจะทุกครั้งที่เรียนเสร็จ
จะพูดคุยกับคุณพ่อหรือไม่ก็คุณแม่
ถามไถ่ว่าในชั่วโมงน้องเป็นอย่างไรบ้าง
จนระยะเวลาผ่านมา 1 ปี
ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของน้อง
สูงขึ้น ดูแข็งแรงดี การเรียนเทนนิสของน้องก็ดีขึ้นตามลำดับ
ตีโฟแฮนด์ แบ็กแฮนด์ ตีโต้ได้มากขึ้น…ข้อดีของน้องที่อยากให้ทุกคนเอาแบบอย่างคือ ตามบอลทุกบอล
มีความตื่นตัวตลอดเวลา…ถ้าเมื่อไรคุณมีสมาธิ
คุณก็สามารถตีได้เช่นกัน ถ้าเมื่อไหร่
คุณขาดสมาธิ ไม่ว่าจำทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
2
ปีผ่านไป…มีเรื่องเล่าต่างๆมากมาย เราไม่เพียงคุยกับเค้าแค่เรื่องตีเทนนิส
แต่ก็จะคอยบอกเค้าในเรื่องการช่วยเหลือตัวเองและผู้หญิงต้องระมัดระวังอะไรบ้าง
ค่อยๆพูดซ้ำให้เค้าจำได้
เรื่องดูแลร่างกายตนเอง แม้แต่เวลาที่น้องเช็ดหน้าเวลาที่เหงื่ออก
ก็ทำให้เค้าดูว่าเช็ดเบาๆทำอย่างไร เช็ดแรงแล้วจะเป็นอะไร
เค้าก็จะจดจำสิ่งที่เราพูดได้ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ…น้องความจำดีค่ะ
ความยากอยู่ตรงที่วิธีทำอย่างไรให้เค้าเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารกันมากกว่า น้องไม่เคยทำให้กุ๊กรู้สึกอึดอัดใจหรือเบื่อ
หรือกลัวจะสอนไม่ได้…ไม่มีเลยค่ะ…ดีใจค่ะ
มีความสุขทุกครั้ง เห็นน้องยิ้ม
อารมณ์ดี เราก็ดีใจค่ะ เวลาคุณแม่น้อง
ชมน้องว่า “ ตีเก่งขึ้น เก่งจังเลย ” มีความสุขค่ะ นี่ค่ะ…ความสุขทีสัมผัสได้
จนถึงปัจจุบัน
น้องยังคงเรียนเทนนิสอยู่ทุกสัปดาห์และตอนนี้น้องก็สามารถเล่นเซ็ท ตีเกมส์
เข้าใจกติกาการเล่นเทนนิส การนับคะแนนได้ด้วยค่ะ เก่งมากๆค่ะ
ขอชื่นชมเลยค่ะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ของน้องที่ทุ่มเท
สละเวลาเพื่อลูกคนนี้
มานั่งรอน้องทุกครั้ง
เอาหนังสือมาอ่าน มานั่งทำงาน ทุ่มเททุกอย่างกับลูกจริงๆ ถ้าไม่มีคุณพ่อคุณแม่ที่คอยให้ความรัก
การเอาใจใส่ อดทน ทุ่มเท หาสิ่งที่ดีทีสุดให้กับน้อง แน่นอนว่า..คงจะไม่มีสิ่งดีเกิดขึ้นแบบนี้
กุ๊ก..ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำสิ่งดีนี้ด้วยนะคะ โดยการสอนเทนนิสให้กับเด็กพิเศษเหล่านี้
เพื่อช่วยพัฒนาสมรรถภาพด้านร่างกายเสริมสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อได้ทำงานปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
มีสมาธิมากขึ้น อารมณ์แจ่มใส สนุกสนานผ่อนคลายมากขึ้น…
ขอบคุณน้องที่ทำให้กุ๊กมีความสุขในการสอนทุกครั้ง และได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงผ่านเรื่องราวในครั้งนี้
ขอขอบคุณ:
น้องเกณฑ์…บุคคลต้นเรื่อง