วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เล่าเรื่อง….จาก….เรื่องจริง(เด็กพิเศษ)

เล่าเรื่อง….จาก….เรื่องจริง
กับครูกุ๊กสอนน้อง ( เด็กพิเศษ )
เขียนโดย: ชมพูนุท  คำแย้ม (วท.บ.วิทยาศาสตร์การกีฬา)

เมื่อ ปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบกับผู้ปกครองท่านหนึ่ง  ในขณะที่กุ๊กกำลังสอนเทนนิสอยู่สนาม ร..รุจิเสรี  ย่านสะพานควาย  หลังจากที่สอนเสร็จเรียบร้อย  ผู้ปกครองท่านนั้นก็เดินเข้ามาทักทายกุ๊ก  และเล่าให้ฟังว่า  “ผมมีลูกสาว คน  มีคนกลางเป็นเด็กพิเศษ  ไม่ทราบว่าครูกุ๊ก จะช่วยสอนลูกผมได้มั๊ย ในตอนนั้นน้องอายุ 14 ปี เริ่มเป็นสาวแล้ว( แต่กุ๊กก็ยังไม่เคยเห็นหน้าน้อง )คือ ลูกผมเคยเรียนเทนนิสมาบ้างแล้ว แต่ผมอยากให้ลูกเรียนกับครูที่เป็นผู้หญิงมากกว่าซึ่งมีความปลอดภัยดีกว่า เพราะน้องเริ่มเป็นสาวแล้วด้วย  ไม่ทราบว่า ครูกุ๊กสนใจไหม”..ในตอนนั้นกุ๊กตอบ..ตกลง.. โดยไม่ได้ลังเลใจเลยค่ะ  กุ๊กกลับบ้านไปรีบโทรบอกแม่ “ เนี่ยกุ๊กได้สอนเด็กพิเศษนะ แม่บอก ดีเลย ตั้งใจสอนล่ะ” เราเองก็ยังคิดว่า..แล้วเราจะสื่อสารกับน้องรู้เรื่องไหม  สอนอย่างไรก่อนหลัง ใช้กิจกรรมรูปแบบไหน  มีคำถามกับตัวเองเยอะแยะไปหมด เลยเริ่มอ่านหนังสือ หาข้อมูลมากขึ้น

จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์  ได้เจอกับน้องคุณพ่อก็แนะนำให้เรารู้จักกัน  แว้บแรกที่เห็นก็รู้สึกเลยว่าน้องเค้าดูบริสุทธิ์ สดใส  มีแค่แววตาที่ไม่สบตาเรา  อาจด้วยไม่คุ้นเคยเจอกันครั้งแรก  เรากํเริ่มคุยกันมากขึ้น และเราได้ซักถามเกี่ยวกับตัวน้องในเบื้องต้นด้วยว่า  น้องมีลัษณะอาการอย่างไรบ้าง  อารมณ์ปกติเป็นอย่างไรบ้าง  อารมณ์ดีเป็นอย่างไรและเวลาโมโหเป็นอย่างไร ก็ได้รู้ว่า  น้องเป็นเด็กที่อารมณ์ดี  ชอบร้องเพลง ที่สังเกตเห็นอีกก็คือ ไม่ค่อยสบตาเวลาที่พูด  ชอบกระโดด  การใช้ภาษายังไม่ถูกต้อง  ( ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลที่ได้ศึกษาว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นอย่างไร ) โดยรวมน้องเป็นเด็กน่ารัก มีบางครั้งน้องเข้ามากอดเรา เราก็กอดเค้านะ (แอบน้ำมีน้ำตานิดนึง..)ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก คิดว่าเค้าควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุด  ในแต่ละครั้งที่สอนก็จะหากิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างในเรื่องของทักษะเทนนิส มาอยู่ในรูปแบบของเกมส์  แต่ละกิจกรรมจำต้องมีการปฏิบัติซ้ำๆหลายครั้ง  เพื่อให้น้องจดจำได้แต่พิเศษมากสำหรับเด็กพิเศษ  เค้าสามารถที่จะจดจำได้ดีและทำได้ถูกต้อง  แต่ต้องใช้เวลานิดนึงค่ะ เมื่อเค้าทำซ้ำเค้าจะจำได้ดี  แล้วก็ทบทวนอีกรอบ  จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอืนที่เกี่ยวเนื่องกัน  ทำเป็นขั้นตอนเมือนที่สอนเด็กปกติเลยค่ะแต่ที่ยากกว่าคือการสื่อสาร  การถ่ายทอดให้เข้าใจตรงกันสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก  ส่วนหนึ่งต้องพยายามให้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง  ให้ทำตาม  ให้ทำซ้ำ  ทำไปด้วยกัน  ให้ทำเองเวลาที่เราต้องการให้เค้าทำอะไรสักอย่าง ที่เค้ายังไม่เคยทำ ครูผู้สอนจะต้องมีจินตนาการ และสร้างจินตนาการให้น้องได้เข้าใจมากขึ้น  ยกตัวอย่างเช่น  ให้น้องตีลูกเสิร์ฟ ก็ต้องโยนบอลให้นิ่งก่อน  จังหวะที่โยนบอลต้องสัมพันธ์กับการตีบอลจึงจะเสิร์ฟได้ จังหวะที่โยนบอลเราต้องทำให้เค้าดูก่อน  เค้าทำตาม  ทำไปพร้อมกัน  ให้ทำเอง แล้วบอกให้พูดด้วยเวลาโยนว่า โยนขึ้นท้องฟ้า แล้วรับให้ได้ ทำซ้ำจนกว่าจะทำได้

กุ๊กโชคดีมาก  ที่น้องเป็นเด็กน่ารัก อารมณ์ดี พูดง่ายและเราสื่อสาร  สนทนากันได้ดีขึ้น  เวลาสอนก็ตั้งใจดี  ทำซ้ำๆเค้าก็จะจำได้เองและในเกือบจะทุกครั้งที่เรียนเสร็จ จะพูดคุยกับคุณพ่อหรือไม่ก็คุณแม่  ถามไถ่ว่าในชั่วโมงน้องเป็นอย่างไรบ้าง  จนระยะเวลาผ่านมา  1 ปี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของน้อง  สูงขึ้น   ดูแข็งแรงดี  การเรียนเทนนิสของน้องก็ดีขึ้นตามลำดับ ตีโฟแฮนด์  แบ็กแฮนด์  ตีโต้ได้มากขึ้นข้อดีของน้องที่อยากให้ทุกคนเอาแบบอย่างคือ  ตามบอลทุกบอล  มีความตื่นตัวตลอดเวลาถ้าเมื่อไรคุณมีสมาธิ คุณก็สามารถตีได้เช่นกัน  ถ้าเมื่อไหร่ คุณขาดสมาธิ ไม่ว่าจำทำอะไรก็ไม่สำเร็จ

ปีผ่านไปมีเรื่องเล่าต่างๆมากมาย เราไม่เพียงคุยกับเค้าแค่เรื่องตีเทนนิส แต่ก็จะคอยบอกเค้าในเรื่องการช่วยเหลือตัวเองและผู้หญิงต้องระมัดระวังอะไรบ้าง ค่อยๆพูดซ้ำให้เค้าจำได้  เรื่องดูแลร่างกายตนเอง  แม้แต่เวลาที่น้องเช็ดหน้าเวลาที่เหงื่ออก ก็ทำให้เค้าดูว่าเช็ดเบาๆทำอย่างไร เช็ดแรงแล้วจะเป็นอะไร เค้าก็จะจดจำสิ่งที่เราพูดได้ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆน้องความจำดีค่ะ ความยากอยู่ตรงที่วิธีทำอย่างไรให้เค้าเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารกันมากกว่า  น้องไม่เคยทำให้กุ๊กรู้สึกอึดอัดใจหรือเบื่อ หรือกลัวจะสอนไม่ได้ไม่มีเลยค่ะดีใจค่ะ  มีความสุขทุกครั้ง  เห็นน้องยิ้ม อารมณ์ดี เราก็ดีใจค่ะ  เวลาคุณแม่น้อง ชมน้องว่า “ ตีเก่งขึ้น เก่งจังเลย ” มีความสุขค่ะ นี่ค่ะความสุขทีสัมผัสได้

จนถึงปัจจุบัน  น้องยังคงเรียนเทนนิสอยู่ทุกสัปดาห์และตอนนี้น้องก็สามารถเล่นเซ็ท ตีเกมส์ เข้าใจกติกาการเล่นเทนนิส การนับคะแนนได้ด้วยค่ะ เก่งมากๆค่ะ  ขอชื่นชมเลยค่ะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ของน้องที่ทุ่มเท สละเวลาเพื่อลูกคนนี้  มานั่งรอน้องทุกครั้ง  เอาหนังสือมาอ่าน  มานั่งทำงาน  ทุ่มเททุกอย่างกับลูกจริงๆ  ถ้าไม่มีคุณพ่อคุณแม่ที่คอยให้ความรัก การเอาใจใส่ อดทน ทุ่มเท หาสิ่งที่ดีทีสุดให้กับน้อง แน่นอนว่า..คงจะไม่มีสิ่งดีเกิดขึ้นแบบนี้

               กุ๊ก..ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำสิ่งดีนี้ด้วยนะคะ  โดยการสอนเทนนิสให้กับเด็กพิเศษเหล่านี้ เพื่อช่วยพัฒนาสมรรถภาพด้านร่างกายเสริมสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อได้ทำงานปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น อารมณ์แจ่มใส สนุกสนานผ่อนคลายมากขึ้น ขอบคุณน้องที่ทำให้กุ๊กมีความสุขในการสอนทุกครั้ง  และได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงผ่านเรื่องราวในครั้งนี้

ขอขอบคุณ: น้องเกณฑ์บุคคลต้นเรื่อง